languageIcon
search
search
brightness_1 แปรงฟัน หรือถูไม้ซิวาก

ต้องแปรงฟันก่อนการอาบน้ำละหมาดหรือก่อนการบ้วนปาก นี่คือการแปรงฟันครั้งที่สองของซุนนะฮ์สำหรับการซิวาก (ครั้งแรกตอนตื่นนอน) สำหรับผู้ที่ต้องการจะอาบน้ำละหมาดมีซุนนะฮ์ให้แปรงฟันก่อน เนื่องจากฮะดีษที่รายงานจากท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า:แท้จริงท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “หากไม่เป็นการลำบากแก่ประชาชาติของฉันแล้วละก็ ฉันจะสั่งให้พวกเขาแปรงฟันทุกครั้งตอนที่อาบน้ำละหมาด” (บันทึกโดยอะห์มัด ฮะดีษลำดับที่ 9928 บันทึกโดยอิบนุ คุซัยมะฮ์ 1/37/140 ท่านให้น้ำหนักว่าเศาะฮีห์ บันทึกโดยอัลฮากิม 1/245 อัลบุคอรีย์บันทึกแบบตะอฺลีกในสำนวนแบบเน้นหนัก บทที่ว่าด้วยไม้ซิวากสดและแห้งสำหรับผู้ถือศีลอด

และในฮะดีษที่รายงานจากท่านหญิงอาอิชะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮา กล่าวว่า: “เราได้จัดเตรียมซิวากและน้ำให้แก่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม แล้วอัลลอฮ์ก็ให้ท่านตื่นขึ้นมาในยามค่ำคืนตามที่พระองค์ทรงประสงค์ ท่านจะถูฟัน อาบน้ำละหมาดและละหมาด…" (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 746)

brightness_1 วิธีการการเช็ดศีรษะตามซุนนะฮ์

การเช็ดศีรษะเริ่มจากวางฝ่ามือทั้งสองบนส่วนหน้าสุดของศีรษะแล้วเช็ดไปจนถึงส่วนท้ายสุดของศีรษะ แล้วเช็ดย้อนกลับมาทางเดิม ผู้หญิงก็มีซุนนะฮ์ให้ทำเช่นนี้ด้วย ส่วนเส้นผมที่เลยต้นคอไม่ต้องเช็ด

หลักฐานคือ:

ฮะดีษที่รายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ บิน ซัยด์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ว่าด้วยเรื่องวิธิการอาบน้ำละหมาดของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ว่า: “ท่านนบีเริ่มจากส่วนหน้าของศีรษะเช็ดไปยังส่วนท้ายของศีรษะแล้วเช็ดย้อนกลับทางเดิม” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 185 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 235)

brightness_1 ล้างอวัยวะแต่ละอย่างจำนวนสามครั้ง

การล้างครั้งแรกเป็นวาญิบ การล้างครั้งที่สองและสามเป็นซุนนะฮ์ และจะต้องไม่เกินสามครั้ง

หลักฐานคือ:

ฮะดีษในบันทึกของอัลบุคอรีย์ที่รายงานจากท่านอิบนุ อับบาส เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา กล่าวว่า: “แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อาบน้ำละหมาดด้วยการล้างอวัยวะอย่างละหนึ่งครั้ง” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 157)

และในฮะดีษที่รายงานโดยท่านอับดุลลอฮ์ บิน ซัยด์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า: “แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อาบน้ำละหมาดด้วยการล้างอวัยวะอย่างละสองครั้ง" (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 158)

และในเศาะฮีห์ของอัลบุคอรีย์และมุสลิม จากฮะดีษของท่านอุษมาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า: “แท้จริงท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม อาบน้ำละหมาดด้วยการล้างอวัยวะอย่างละสามครั้ง” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 159)

ดังนั้นที่ดีที่สุดคือต้องทำทั้งสามแบบ อย่างละหนึ่งครั้งบ้าง อย่างละสองครั้งบ้าง อย่างละสามครั้งบ้าน สับเปลี่ยนกันไป หรือล้างหน้าสามครั้ง ล้างมือสองครั้ง ล้างเท้าหนึ่งครั้ง ก็สามารถทำได้ ดังปรากฏในฮะดีษที่รายงานจากท่านอับดุลลอฮ์ บิน ซัยด์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ในอีกสายรายงานหนึ่ง (ดูใน ซาดุลมะอาด 1/192) แต่ส่วนใหญ่แล้วให้ล้างอย่างละสามครั้งอย่างสมบูรณ์ เพราะเป็นแนวทางของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม

brightness_1 อ่านดุอาอ์หลังอาบน้ำละหมาดเสร็จ

จากท่านอับดุลลอฮ์ บิน อุมัร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “ไม่มีคนใดในหมู่พวกท่านที่เมื่ออาบน้ำละหมาดเสร็จสมบูรณ์อย่างดี แล้วเขากล่าวว่า:

أَشْهَدُ أَنَّ لاَ إِلهَ أَلاَّ اللّهُ   وَأَنَّ مُحمَّداً عَبْدُ اللّهِ وَرَسُولُهُ

(อ่านว่า อัชฮะดุุอันลา อิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วะอัชฮะดุ อันนะ มุฮัมมะดัน อับดุลลอฮิ วะเราะซูลุฮุ ความว่า ฉันปฏิญาณตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่ถูกเคารพภักดีอย่างแท้จริงนอกจากอัลลอฮ์ และแท้จริงท่านนบีมุฮัมมัดเป็นบ่าวและศาสนทูตของอัลลอฮ์)

นอกจากว่าประตูสวรรค์ทั้งแปดจะถูกเปิดสำหรับเขา เขาจะเข้าประตูใดก็ได้ตามต้องการ” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 234)

หรือฮะดีษที่รายงานจากท่านอบู ซะอีด เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ว่าท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดที่อาบน้ำละหมาดเสร็จแล้วกล่าวว่า:

سُبْحَانَكَ اللَّهُمَّ وَبِحَمْدِكَ  أَشْهَدُ أَنْ لا إِلَهَ إلاَّ أَنْتَ  أَسْتَغْفِرُكَ وأَتُوبُ إلَيْكَ

(อ่านว่า ซุบฮานะกัลลอฮุมมะ วะบิฮัมดิกะ อัชฮะดุอันลาอิลาฮะ อิลลา อันตะ อัซตัฆฟิรุกะ วะอะตูบุอิลัยก์) 

ความว่า โอ้อัลลอฮ์ด้วยความบริสุทธ์และการสรรเสริญต่อพระองค์ฉันปฏิญานตนว่าไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากพระองค์ ฉันขออภัยโทษต่อพระองค์ ฉันขอกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์

อัลลอฮ์จะประทับตราคำพูดนี้ให้แก่เขา แล้วมันก็จะถูกยกขึ้นสู่เบื้องล่างของบัลลังก์และมันจะไม่ถูกทำลายจนกระทั่งถึงวันกิยามะฮ์” (บันทึกโดยอันนะซาอีย์ ในอะมัล อัลเยาม์ วะ อัลลัยละฮ์ หน้า 147 บันทึกโดยอัลฮากิม 1/752 อิบนุ ฮะญัรกล่าวว่า สายรายงานเศาะฮีห์ ดูใน นะตาอิจญ์ อัลอัฟการ 1/246 และอธิบายว่าหากสายรายงานไม่เศาะฮีห์ถึงท่านนบีแต่ก็ถึงเศาะาบะฮ์ ซึ่งไม่เสียหายอะไร เพราะฮะดีษนี้อยู่ในเกณฑ์ฮะดีษมัรฟูอฺถึงท่านนบีเนื่องจากเนื้อหาเป็นประเด็นที่ไม่อาจจะใช้ความคิดตัดสินได้เอง