การรำลึกถึงอัลลอฮ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือ: การอ่านคัมภีร์ของอัลลอฮ์ ซึ่งการอิบาดะฮ์ด้วยการอ่านอัลกุรอานเช่นนี้ทำให้ชาวสะลัฟถึงกับอดนอนกลางคืน
{كَانُوا قَلِيلاً مِّنَ اللَّيْلِ مَا يَهْجَعُونَ * وَبِالْأَسْحَارِ هُمْ يَسْتَغْفِرُونَ} [ الذاريات: 18 ]
ความว่า “พวกเขาหลับนอนแต่เพียงส่วนน้อยของเวลากลางคืน และในยามรุ่งสางพวกเขาขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์” [ซูเราะฮ์อัซซาริยาต: 17-18]
พวกเขาได้รวมระหว่างภารกิจการอ่านอัลกุรอานและการรำลึกด้วยบทซิกิรที่มาจากท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ช่างยอดเยี่ยมอะไรเช่นนั้นสำหรับผู้ที่ให้กลางคืนของเขามีชีวิตชีวาด้วยสิ่งนี้ และช่างขาดทุนยิ่งผู้ที่บกพร่อง ปล่อยให้เวลากลางคืน และเวลารุ่งสางผ่านพ้นไปโดยไม่ได้อ่านอัลกุรอานและขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ และหวังว่าเราท่านจะรอดพ้นปราศจากการฝ่าฝืนพระเจ้าของเราด้วยเถิด ผู้ที่ใช้เวลาเหล่านี้อย่างคุ้มค่ามีน้อยเหลือเกินเว้นแต่ผู้ที่พระเจ้าของเราทรงเมตตาเขา
ท่านฮัมมาด บิน ซัยด์ รายงานจากท่าน อะฏออ์ บิน อัสซาอิบ ว่า แท้จริงท่านอบู อับดุรเราะห์มาน กล่าวว่า “เราได้เรียนอัลกุรอานจากกลุ่มชนหนึ่งที่พวกเขาบอกเราว่า พวกเขาศึกษาอัลกุรอานทีละสิบอายะฮ์ และจะไม่ศึกษาสิบอายะฮ์ถัดไปจนกว่าจะรู้สิ่งที่อยู่ในสิบอายะฮ์นั้น และปฏิบัติให้ได้ก่อน ในขณะที่กลุ่มชนหลังจากพวกเราจะร่ำเรียนศึกษาอัลกุรอานเหมือนดื่มน้ำโดยที่น้ำนั้นจะลงไปไม่เกินกระดูกไหปลาร้าเท่านั้น” (ใน สิยัร อะอ์ลาม อันนุบะลาอ์ 4/269)
พวกเราส่วนใหญ่ในยุคนี้ยุ่งอยู่กับภาระที่มากมาย จนรู้สึกว่าหัวใจอุดตันหรือขึ้นสนิม อยู่อย่างเหลวไหลเผอเรอ ดังนั้น การให้ชีวิตแก่หัวใจนั้นต้องให้ด้วยการรำลึกถึงอัลลอฮ์ ท่านอบู มูซา เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ได้กล่าวว่า: “อุปมาผู้ที่รำลึกถึงพระผู้อภิบาลของเขา กับผู้ที่ไม่ได้รำลึกถึงพระผู้อภิบาลของเขา อุปมัยดั่งผู้ที่มีชีวิตกับผู้ที่ตาย” และในสำนวนของมุสลิมท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “อุปมาบ้านที่มีการรำลึกถึงอัลลอฮ์ กับบ้านที่ไม่มีการรำลึกถึงอัลลอฮ์ อุปมัยดั่งผู้มีชีวิตกับผู้ที่ตาย” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 6407 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 779)
1/ อัลลอฮ์ได้ส่งเสริมให้ปวงบ่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์มากๆ พระองค์ตรัสว่า:
{يا أَيُّهَا الّذينَ ءاَمَنُواْ اذْكُرُوْا الله ذِكْراً كَثِيراً # وَ سَبِّحُوْهُ بُكْرَة وَأَصِيْلاً} [ الأحزاب:41-42]
ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย จงรำลึกถึงอัลลอฮ์ โดยการรำลึกอย่างมากมาย และจงแซ่ซ้องสดุดีต่ออัลลอฮ์ทั้งยามเช้าและยามเย็น” [ซูเราะฮ์ อัลอะฮ์ซาบ: 41-42]
2/ อัลลอฮ์ได้ทรงสัญญาแก่บรรดาผู้รำลึกถึงพระองค์ทั้งชายและหญิง ว่าจะได้รับการอภัยโทษและรางวัลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่ อัลลอฮ์ตรัสว่า:
{وَالذَّاكِرِينَ اللَّهَ كَثِيراً وَالذَّاكِرَاتِ أَعَدَّ اللَّهُ لَهُم مَّغْفِرَةً وَأَجْراً عَظِيماً }[الأحزاب : 35 ]
ความว่า “และบรรดาผู้รำลึกถึงอัลลอฮ์อย่างมากมาย ทั้งที่เป็นชายและหญิง อัลลอฮ์ได้เตรียมไว้สำหรับพวกเขาแล้ว ซึ่งการอภัยโทษและรางวัลอันใหญ่หลวง” [ซูเราะฮ์ อัลอะฮ์ซาบ: 35]
3/ และอัลลอฮ์ได้เตือนให้ระวังลักษณะของบรรดามุนาฟิกทั้งหลาย พวกเขารำลึกถึงอัลลอฮ์ แต่ลองพิจารณาดูว่าพวกเขารำลึกแค่ไหน อัลลอฮ์ตรัสว่า:
{إِنَّ الْمُنَافِقِينَ يُخَادِعُونَ اللّهَ وَهُوَ خَادِعُهُمْ وَإِذَا قَامُواْ إِلَى الصَّلاَةِ قَامُواْ كُسَالَى يُرَآؤُونَ النَّاسَ وَلاَ يَذْكُرُونَ اللّهَ إِلاَّ قَلِيلاً }[ النِّساء:142]
ความว่า “แท้จริงบรรดามุนาฟิกนั้นกำลังหลอกอัลลอฮ์อยู่ ขณะเดียวกันอัลลอฮ์ก็ทรงหลอกพวกเขา และเมื่อพวกเขาลุกขึ้นไปละหมาดพวกเขาก็ลุกขึ้นในสภาพเกียจคร้าน โดยให้ผู้คนเห็นเท่านั้น และพวกเขาจะไม่กล่าวรำลึกถึงอัลลอฮ์ นอกจากเล็กน้อยเท่านั้น” [ซูเราะฮ์ อันนิซาอ์: 142]
4/ อัลลอฮ์ได้เตือนให้ระวังการยุ่งอยู่กับทรัพย์สินและลูกๆ จนไม่ได้รำลึกถึงอัลลอฮ์ อัลลอฮ์ตรัสว่า:
{يَا أَيُّهَا الَّذِينَ آمَنُوا لَا تُلْهِكُمْ أَمْوَالُكُمْ وَلَا أَوْلَادُكُمْ عَن ذِكْرِ اللَّهِ وَمَن يَفْعَلْ ذَلِكَ فَأُوْلَئِكَ هُمُ الْخَاسِرُونَ }[ المنافقون: 9]
ความว่า “โอ้บรรดาผู้ศรัทธาเอ๋ย อย่าให้ทรัพย์สินของพวกเจ้าและลูกหลานของพวกเจ้าหันเหพวกเจ้าจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์ และผู้ใดกระทำเช่นนั้น ชนเหล่านั้นคือพวกที่ขาดทุน” [ซูเราะฮ์ อัลมุนาฟิกูน: 9]
5/ เรามาใคร่ครวญถึงความประเสริฐและเกียรติที่สูงส่งนี้ ที่อัลลอฮ์ตรัสว่า “จงรำลึกถึงข้า แล้วข้าจะนึกถึงเจ้า” และในฮะดีษกุดซีย์ อัลลอฮ์ตรัสว่า: “แท้จริงข้าอยู่กับความนึกคิดของบ่าว และข้าจะอยู่กับเขาเมื่อเขารำลึกถึงข้า หากเขารำลึกถึงข้าในใจของเขา ข้าจะนึกถึงเขาในใจของข้า หากเขาพูดถึงข้าต่อหน้าผู้คน ข้าจะพูดถึงเขาต่อหน้าผู้ที่ดีกว่าพวกเขา” (จากฮะดีษของท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 7405 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2675)
1. ท่านอบูฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า แท้จริงท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดกล่าวว่า ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วะฮ์ดะฮุ ลาชะรีกะละฮ์ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะอะลา กุลลิชัยอิน เกาะดีร (ความว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์เพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีใดๆ ต่ออัลลอฮ์ อำนาจการปกครองและการสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง) ในหนึ่งวันกล่าวหนึ่งร้อยครั้ง เขาจะได้รับผลบุญเท่ากับการปล่อยทาสสองคน และถูกบันทึกความดีให้แก่เขาหนึ่งร้อยความดี และถูกลบล้างให้แก่เขาหนึ่งร้อยความผิด และจะถูกปกป้องจากชัยฏอนตลอดทั้งวันนั้นจนค่ำ และจะไม่มีผู้ใดประเสริฐกว่าเขานอกจากผู้ที่ปฏิบัติมากกว่าเขา”
และผู้ใดกล่าวว่า ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮ์ (ความว่า มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์ และการสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮ์) ในหนึ่งวันกล่าวหนึ่งร้อยครั้ง ความผิดทั้งหมดของเขาจะถูกลบล้าง แม้ว่ามันจะมีมากเท่ากับฟองน้ำในทะเลก็ตาม” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 3293 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2691)
2. ท่านอบู อัยยูบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า: ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัมกล่าวว่า: “ผู้ใดกล่าวว่า ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ วะฮ์ดะฮุ ลาชะรีกะละฮ์ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะ อะลา กุลลิชัยอิน เกาะดีร (ความว่า ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์เพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีใดๆ ต่ออัลลอฮ์ อำนาจการปกครองและการสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ และอัลลอฮ์เป็นผู้ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง) กล่าวสิบครั้งเท่ากับการปล่อยทาสสี่คนจากลูกหลานของนบีอิสมาอีล” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 6404 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2693)
3. ท่านสะอัด บิน อบู วักกอศ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ขณะที่พวกเราอยู่กับท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ท่านกล่าวว่า: “พวกท่านอ่อนแอหรือที่จะแสวงหาความดีในทุกๆ วัน หนึ่งพันความดี?” และคนหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็ถามว่า คนหนึ่งคนใดในหมู่พวกเราจะแสวงหาความดีหนึ่งพันความดีได้อย่างไร? ท่านจึงกล่าวว่า: “กล่าว ซุบฮานัลลอฮ์ หนึ่งร้อยครั้ง จะถูกบันทึกให้แก่เขาหนึ่งพันความดี หรือลบล้างความผิดให้แก่เขาหนึ่งพันความผิด” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2698)
4. ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า แท้จริงท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดกล่าวว่า ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮ์ (ความว่า มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์ และการสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮ์) ในหนึ่งวันกล่าวหนึ่งร้อยครั้ง ความผิดทั้งหมดของเขาจะถูกลบล้าง แม้ว่าจะมีมากเท่ากับฟองน้ำในทะเลก็ตาม” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 6405 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2692)
และในสายรายงานในบันทึกของมุสลิมท่านกล่าวว่า: “ผู้ใดกล่าวในตอนเช้าและตอนเย็นว่า ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮ์ หนึ่งร้อยครั้งจะไม่มีผู้ใดนำพาสิ่งใดที่ประเสริฐกว่าสิ่งที่เขานำมา นอกจากผู้ที่กล่าวเหมือนกับเขาหรือมากกว่าเขา” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2692)
และฮะดีษที่กล่าวถึงความประเสริฐของการรำลึกถึงอัลลอฮ์มีอีกมากมาย และที่ได้นำเสนอไปคือ สิ่งปฏิบัติกันแพร่หลายที่สุด และเป็นฮะดีษที่มีความถูกต้องมากที่สุดในหมวดนี้ และมีฮะดีษอื่นๆ เช่น ฮะดีษที่ท่านอบู มูซา อัลอัชอะรีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวแก่ฉันว่า: “เอาไหมฉันจะบอกท่านถึงขุมทรัพย์หนึ่งจากบรรดาขุมทรัพย์ของสวรรค์?” ฉันจึงตอบว่า: เอาซิครับ ท่านจึงกล่าวว่า: “เจ้าจงกล่าวว่า ลาเฮาละ วะลา กูวะตะ อิลลาบิลลาฮ์ (ความว่า ไม่มีพลังอำนาจใดนอกจากพลังอำนาจของอัลลอฮ์)” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษละดับที่ 4202 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2704)
และท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “การที่ฉันกล่าวว่า
سُبْحَانَ اللّهِ وَالْحَمْدُ للّهِ وَلاَ إِلَـهَ إِلاَّ اللّهُ وَاللّهُ أَكْبَرُ
“ซุบฮานัลลอฮ์ วัลฮัมดุลิลลาฮ์ วะลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วัลลอฮุอักบัร”
ความว่า “มหาบริสุทธิยิ่งแด่อัลลอฮ์ การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ และไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และอัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่”
การกล่าวเช่นนี้เป็นที่รักแก่ฉันมากกว่าสิ่งที่ดวงอาทิตย์ขึ้นมาส่องแสงให้มันเสียอีก” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2695)
การขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ก็เป็นการรำลึกถึงอัลลอฮ์เช่นกัน ท่านอัลอะฆ็อร อัลมุซะนีย์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “แท้จริงฉันขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ในวันหนึ่งเป็นจำนวนหนึ่งร้อยครั้ง” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2702)
นี่คือสิ่งที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม ปฏิบัติ และท่านก็ส่งเสริมให้ขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์มาก ๆ ดังฮะดีษที่ท่าน อัลอะฆ็อร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ได้กล่าวว่า: ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “โอ้มนุษย์ทั้งหลาย จงสำนึกผิดกลับเนื้อกลับตัวสู่อัลลอฮ์เถิด แท้จริงฉันขออภัยโทษกลับเนื้อกลับตัวในแต่ละวันเป็นจำนวนหนึ่งร้อยครั้ง” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2702)
และท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า “ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ แท้จริงฉันขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์ และกลับเนื้อกลับตัวสู่อัลลอฮ์ในแต่ละวันมากกว่าเจ็ดสิบครั้ง” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 6307) ดังนั้นจำเป็นสำหรับปวงบ่าวทั้งหลายอย่าได้เพิกเฉยต่อการขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์เลย
และฉันขอปิดท้ายด้วยบทซิกิรที่ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในบันทึกของเศาะฮีห์ทั้งสอง คือฮะดีษที่ท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “คำรำลึกสองคำ ที่เบาลิ้น แต่หนักบนตาชั่ง และเป็นที่รักยิ่งสำหรับอัลลอฮ์ นั่นคือ
سُبْحَانَ اللّه وَبِحَمْدِهِ ، سُبْحَانَ اللّهِ الْعَظِيمِ
อ่านว่า “ซุบฮานัลลอฮิ วะบิฮัมดิฮิ ซุบฮานัลลอฮิล อะซีม”
ความว่า “มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์ และการสรรเสริญเป็นสิทธิของอัลลอฮ์ มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 6406 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 2694)
การสรรเสริญทั้งมวลเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮ์ ที่สิ่งดีๆ ทั้งหลายสมบูรณ์ได้ด้วยความโปรดปรานของพระองค์