1 ครั้ง
กล่าว “อัสตัฆฟิรุลลอฮ์”
ความว่า “ฉันขออภัยโทษต่ออัลลอฮ์” สามครั้ง
แล้วกล่าวว่า
اللَّهُمَّ أَنْتَ السَّلاَمُ وَمِنْكَ السَّلاَمُ ، تَبَارَكْتَ ذَا الْجَلاَلِ وَالإِكْرَامِ
อ่านว่า “อัลลอฮุมมะ อันตัสสลามุ วะมินกัสสลามุ, ตะบาร็อกตะ ซัลญะลาลิ วัลอิกรอม”
ความว่า “โอ้อัลลอฮ์ พระองค์เป็นผู้ยิ่งด้วยสันติ ความสันติมาจากพระองค์ จำเริญยิ่งแล้ว โอ้ผู้สูงส่ง ผู้มีเกียรติ” (จากฮะดีษของท่านเษาบาน เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 591)
1 ครั้ง
لاَ إِلهَ إِلاَّ اللّهُ وَحْدَهُ لاَ شَرِيكَ لَهُ، لَهُ الْمُلْكُ وَلَهُ الْحَمْدُ ، وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ، لاَ حَوْلَ وَلاَ قُوَّةَ إِلاَّ بِاللّهِ ، لاَ إِلهَ إِلاَّ اللّهُ وَلاَ نَعْبُدُ إِلاَّ إِيَّاهُ ، لَهُ النِّعْمَةُ وَلَهُ الْفَضْلُ ، وَلَهُ الثَّنَاءُ الْحَسَنُ، لاَ إِلهَ إِلاَّ اللّهُ مُخْلِصِينَ لَهُ الدِّينَ وَلَوْ كَرِهَ الْكَافِرُونَ.
อ่านว่า “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ วะฮ์ดะฮุ ลาชะรีกะละฮ์, ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ, วะฮุวะ อะลา กุลลิชัยอิน เกาะดีร, ลา เฮาละ วะลากูวะตะ อิลลาบิลลาฮิ, ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮ์ วะลา นะอ์บุดุ อิลลาอียาฮุ, ละฮุน นิอ์มะฮ์ วะละฮุล ฟัฎลุ, วะละฮุษ ษะนาอุล ฮะซัน, ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ มุคลิซีนะ ละฮุดดีน, วะเลากะริฮัล กาฟิรูน”
ความว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์เพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีใดๆ สำหรับอัลลอฮ์ อำนาจการปกครอง และการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และอัลลอฮ์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่มีพลังอำนาจใดๆ นอกจากพลังอำนาจของอัลลอฮ์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ และเราจะไม่เคารพภักดีต่อผู้ใดนอกจากอัลลอฮ์เท่านั้น ความโปรดปราน ความประเสริฐ และการสรรเสริญที่ดีเป็นของอัลลอฮ์ ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์ เป็นการเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจ แม้บรรดาผู้ปฏิเสธจะรังเกียจก็ตาม” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 596)
1 ครั้ง
لاَ إِلهَ إِلاَّ اللّهُ وَحْدَهُ لاَ شَرِيكَ لَهُ، لَهُ الْمُلْكُ وَلَهُ الْحَمْدُ ، وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ ، اللَّهُمَّ لاَ مَانِعَ لِمَا أَعْطَيْتَ، وَلاَ مُعْطِيَ لِمَا مَنَعْتَ ، وَلاَ يَنْفَعُ ذَا الْجَدِّ مِنْكَ الْجَدُّ.
อ่านว่า “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ วะฮ์ดะฮู ลาชะรีกะละฮ์ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะ อะลา กุลลิ ชัยอิน เกาะดีร อัลลอฮุมมะ ลามานิอะ ลิมา อะอ์ฏ็อยตะ วะลา มุอ์ฏิยะ ลิมา มะนะอ์ตะ วะลายัน ฟะอุ ซัลญัดดิ มินกัล ญัดดุ”
ความว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์เพียงผู้เดียว โดยไม่มีภาคีใด ๆ สำหรับอัลลอฮ์ อำนาจการปกครอง และการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และอัลลอฮ์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง โอ้อัลลอฮ์ ไม่มีผู้ใดยับยั้งในสิ่งที่พระองค์ประทาน และไม่มีผู้ใดประทานในสิ่งที่พระองค์ยับยั้ง ตำแหน่งของผู้มีเกียรติจะไม่เอื้อประโยชน์อันใดแก่เขาเลย ณ พระองค์” (บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ ฮะดีษลำดับที่ 844 บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 593)
100 ครั้ง
سبحان الله (33)، الحمد لله (33)، الله أكبر (33)، لاَ إِلهَ إِلاَّ اللّهُ وَحْدَهُ لاَ شَرِيكَ لَهُ، لَهُ الْمُلْكُ وَلَهُ الْحَمْدُ وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ
หนึ่ง:
سبحان الله
อ่านว่า “ซุบฮานัลลอฮ์” ความว่า “มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่อัลลอฮ์” 33 ครั้ง
الحمد لله
อ่านว่า “อัลฮัมดุลิลลาฮ์”
ความว่า “การสรรเสริญทั้งมวลเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์” 33 ครั้ง
الله أكبر
อ่านว่า “อัลลอฮุอักบัร” ความว่า “อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่” 33 ครั้ง
และครั้งที่หนึ่งร้อยให้กล่าวว่า
لاَ إِلهَ إِلاَّ اللّهُ وَحْدَهُ لاَ شَرِيكَ لَهُ, لَهُ الْمُلْكُ وَلَهُ الْحَمْدُ , وَهُوَ عَلَى كُلِّ شَيْءٍ قَدِيرٌ
อ่านว่า “ลาอิลาฮะ อิลลัลลอฮุ วะฮ์ดะฮู ลาชะรีกะละฮุ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะ อะลา กุลลิชัยอิน เกาะดีร”
ความว่า “ไม่มีพระเจ้าอื่นใดนอกจากอัลลอฮ์เพียงผู้เดียวโดยไม่มีภาคีใดๆ อำนาจการปกครองและการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของอัลลอฮ์ และและอัลลอฮ์ทรงเดชานุภาพเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง”
อ้างจากฮะดีษของท่านอบู ฮุร็อยเราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ ที่กล่าวว่า:ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดกล่าวว่า ซุบฮานัลลอฮ์ 33 ครั้ง อัลฮัมดุลิลลาฮ์ 33 ครั้ง อัลลอฮุอักบัร 33 ครั้ง และลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์ วะฮ์ดะฮุ ลาชะรีกะละฮุ ละฮุลมุลกุ วะละฮุลฮัมดุ วะฮุวะ อะลา กุลลิ ชัยอิน เกาะดีร เป็นครั้งที่หนึ่งร้อย หลังละหมาดทุกเวลา ความผิดของเขาจะถูกให้อภัย ถึงแม้จะมีมากเท่ากับฟองน้ำในทะเลก็ตาม” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 597)
100 ครั้ง
سبحان الله (33)، الحمد لله (33)، الله أكبر (34) م
สอง: “ซุบฮานัลลอฮ์” 33 ครั้ง “อัลฮัมดุลิลลาฮ์” 33 ครั้ง “อัลลอฮุอักบัร" 34 ครั้ง ดังฮะดีษของท่านกะอับ บิน อุจญ์เราะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า:ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “บทซิกิรที่กล่าวหรือปฏิบัติหลังทุกละหมาดฟัรฎู ซึ่งจะไม่ทำให้ผู้กล่าวผิดหวังอย่างแน่นอน” นั่นคือ
กล่าว “ซุบฮานัลลอฮ์” 33 ครั้ง อัลฮัมดุลิลลาฮ์ 33 ครั้ง อัลลอฮุอักบัร 34 ครั้ง” (บันทึกโดยมุสลิม ฮะดีษลำดับที่ 596)
100 ครั้ง
سبحان الله (25)، الحمد لله (25)، الله أكبر، لا إله إلا الله (25) م
สาม: “ซุบฮานัลลอฮ์” 25 ครั้ง “อัลฮัมดุลิลลาฮ์” 25 ครั้ง ”อัลลอฮุอักบัร" 25 ครั้ง “ลาอิลาฮะอิลลัลลอฮ์” 25 ครั้ง
สำนวนนี้ มาจากฮะดีษของท่านอับดุลลอฮ์ บิน ซัยด์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์
(บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ ฮะดีษลำดับที่ 3413 อัลอัลบานีย์กล่าวว่าเศาะฮีห์ ใน ตะห์กีก มิชกาต อัลมะศอบีห์ 1/307)
1 ครั้ง
سبحان الله (10)، الحمد الله (10)، الله أكبر (10) م
สี่: “ซุบฮานัลลอฮ์” 10 ครั้ง “อัลฮัมดุลิลลาฮ์” 10 ครั้ง “อัลลอฮุอักบัร” 10 ครั้ง
สำนวนนี้ มาจากฮะดีษของท่านอับดุลลอฮ์ บิน อัมร์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮุมา (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ ฮะดีษลำดับที่ 3410 อัลอัลบานีย์กล่าวว่าเศาะฮีห์ ใน ตะห์กีก มิชกาต อัลมะศอบีห์ 2/743)
ดังนั้น จึงมีซุนนะฮ์ให้ปฏิบัติสลับกันไป ตามกฎที่เราเคยอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ในการปฏิบัติซุนนะฮ์ด้วยวิธีที่หลากหลายตามที่มีรายงาน
มีซุนนะฮ์ให้กล่าวตัสบีฮ์ด้วยการนับนิ้ว ดังที่ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “จงกล่าวตัสบีฮ์ด้วยการนับนิ้ว เพราะนิ้วจะถูกถามและถูกสั่งให้พูด” (บันทึกโดยอะห์มัด ฮะดีษลำดับที่ 27089 บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ ฮะดีษลำดับที่ 3486 อัลอัลบานีย์กล่าวว่าฮะซัน ใน เศาะฮีห์อัลญามิอ์ 2/753)
1 ครั้ง
اللَّهُ لَا إِلَهَ إِلَّا هُوَ الْحَيُّ الْقَيُّومُ لَا تَأْخُذُهُ سِنَةٌ وَلَا نَوْمٌ لَهُ مَا فِي السَّمَاوَاتِ وَمَا فِي الْأَرْضِ مَنْ ذَا الَّذِي يَشْفَعُ عِنْدَهُ إِلَّا بِإِذْنِهِ يَعْلَمُ مَا بَيْنَ أَيْدِيهِمْ وَمَا خَلْفَهُمْ وَلَا يُحِيطُونَ بِشَيْءٍ مِنْ عِلْمِهِ إِلَّا بِمَا شَاءَ وَسِعَ كُرْسِيُّهُ السَّمَاوَاتِ وَالْأَرْضَ وَلَا يَئُودُهُ حِفْظُهُمَا وَهُوَ الْعَلِيُّ الْعَظِيمُ
ดังฮะดีษของท่าน อบู อุมามะฮ์ เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม กล่าวว่า: “ผู้ใดที่อ่านอายะฮ์กุรซีย์ทุก ๆ หลังละหมาดฟัรฎู จะไม่มีสิ่งใดกีดขวางเขาจากสวรรค์ได้ ยกเว้นความตายเท่านั้น” (บันทึกโดยอันนะซาอีย์ ฮะดีษลำดับที่ 9928 อัลมุนซิรีย์กล่าวว่าเศาะฮีห์ ในอัตตัรฆีบ วะ อัตตัรฮีบ ลำดับที่ 2373 อิบนุ อับดิล ฮาดีย์ ในอัลมุฮัรร็อร 1/198 และอิบนุล ก็อยยิม ในซาดุล มะอาด 1/303)
1 ครั้ง
ดังฮะดีษของท่านอุกบะฮ์ บิน อามิร เราะฎิยัลลอฮุอันฮ์ กล่าวว่า “ท่านเราะซูลุลลอฮ์ ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะซัลลัม สั่งฉันให้อ่านสองซูเราะฮ์แห่งการขอความคุ้มครอง(อัลฟะลักและอันนาส)ทุก ๆ หลังละหมาดฟัรฎู” (บันทึกโดยอบูดาวูด ฮะดีษลำดับที่ 1525 และอัลอัลบานีย์กล่าวว่า: สายรายงานเศาะฮีห์ และอิบนุ คุซัยมะฮ์ กับอิบนุ ฮิบบานกล่าวว่า เศาะฮีห์ ใน เศาะฮีห์ อบีดาวูด 5/254)